
ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ส่งผลให้คาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำสปอตทรงตัวที่ $3,585.68 ต่อออนซ์ ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลของวันศุกร์ที่ $3,600.03 เล็กน้อย สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนธันวาคมลดลง 0.7% เหลือ $3,626.52 ต่อออนซ์ ณ เวลา 01:39 น. ตามเวลา ET (13:39 น. GMT)
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 9 วันจาก 10 วันทำการที่ผ่านมา นับตั้งแต่ต้นปี ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 37% โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ และอำนาจซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลาง โดยเฉพาะจีน
ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอส่งผลให้คาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
รายงานการจ้างงานล่าสุดของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของการเติบโตของการจ้างงานและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.31 จุดพื้นฐาน 3T ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมเดือนกันยายน และมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 50 จุดพื้นฐานมากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนโอกาสในการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน เช่น ทองคำ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนมากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักๆ แทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ โดยยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลังจากร่วงลงอย่างหนักจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานในวันศุกร์
ขณะนี้ผู้สังเกตการณ์ตลาดกำลังรอรายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจส่งผลต่อการคาดการณ์นโยบายของเฟดและราคาทองคำมากขึ้น